วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ (OS2)

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการ DOS

DOS (Disk Operating System) เป็นโปรแกรมที่ช่วยจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล จัดการตามความต้องการ เกี่ยวกับเครื่องพิมพ์ จอภาพ เครื่องอ่าน และการบันทึกของจานแม่เหล็กและอุปกรณ์อื่นๆ DOS เป็นโปรแกรมสำหรับใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC : Personnel Computer)
DOS (Disk Operating System) เป็นระบบปฏิบัติการ ที่ได้รับติดตั้งอย่างกว้างขวางในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล DOS สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล รุ่นแรก เรียกว่า Personal Computer-Disk Operating System ได้รับการพัฒนาให้กับ IBM โดย Bill Gates ซึ่งเขาได้รับสิทธิในการขายในเวอร์ชัน Microsoft เรียกว่า MS-DOS โดยที่ PC-DOS และ MS-DOS ได้รับอ้างถึงในชื่อ DOS ระบบปฏิบัติการ DOS เป็นระบบคำสั่งแบบ line command ซึ่งจะมี Prompt สำหรับการป้อนคำสั่งC:\>ระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นแรกโดยความจริงแล้วเป็นโปรแกรมประยุกต์ที่ทำงานบน MS-DOS ในปัจจุบันระบบปฏิบัติการ Windows ยังคงให้การสนับสนุน DOS สำหรับการทำงานในวัตถุประสงค์พิเศษที่ต้องใช้ระบบปฏิบัติการ DOS
คำสั่งที่ใช้ในระบบปฏิบัติการ MS-DOS
1. คำสั่งในการจัดการระบบ
คำสั่งลบจอภาพ : cls
คำสั่งแสดงวันที่ : date
คำสั่งแสดงเวลา : time
คำสั่ง prompt
prompt [ข้อความ]
prompt Hello$p$g
prompt $d$g
การพิมพ์คำสั่ง prompt เพื่อกลับสู่จุดรับคำสั่งปกติ
คำสั่งไปยัง drive ต่าง ๆ
c: d: a:
2.คำสั่งในการจัด directory
คำสั่งสร้าง directory
md [ชื่อ drive] ชื่อ directory ย่อย
md test
คำสั่งย้าย directory
cd [ชื่อ drive] ชื่อ directory
cd d:\test
คำสั่งลบ direcotory
rd [ชื่อ drive] ชื่อ directory
rd d:\test

3.คำสั่งในการจัดการไฟล์
คำสั่งแสดงชื่อไฟล์และ directory ย่อย
dir [ชื่อ drive] [ชื่อ path] [/p] [/w] [/s]
dir d:
dir c:\windows /w
dir c:\windows /p /s
คำสั่งสำเนาไฟล์
copy [ชื่อ drive] [ชื่อ path] ชื่อไฟล์ตั้งต้น [ชื่อ drive] [ชื่อ path] [ชื่อไฟล์ใหม่]
copy c:\autoexec.bat d:\
คำสั่งเปลี่ยนชื่อไฟล์
rename [ชื่อ drive] [ชื่อ path] ชื่อไฟล์ เก่า [ชื่อ drive] [ชื่อ path] ชื่อไฟล์ใหม่
rename d:\autoexec.bat auto.bat
คำสั่งดูข้อมูลของไฟล์
type [ชื่อ drive] [ชื่อ path] ชื่อไฟล์
type d:\auto.bat
คำสั่งลบไฟล์
del [ชื่อ drive] [ชื่อ path] ชื่อไฟล์
del d:\auto.bat

ระบบปฏิบัติการ Windows
Window

Window เป็นพื้นที่การมองที่แยกกันบนจอภาพคอมพิวเตอร์ในระบบ ที่ยอมให้มีพื้นที่การมองหลายพื้นที่ ในฐานที่เป็นส่วนของ graphical user interface (GUI) Windows ได้รับการจัดการโดย window manager ในฐานะที่เป็นส่วนของระบบ WindowsWindows สามารถปรับขนาดได้โดยผู้ใช้ ตัวอย่างเช่น สามารถปรับขอบ ขยายใหญ่ ลดขนาดและปิด ปัจจุบันระบบปฏิบัติการ multitasking ให้ผู้ใช้สามารถมีหลาย Windows บนจอภาพในเวลาเดียวกัน และทำงานเมื่อผู้ใช้เลือกWindows ใช้ครั้งแรกในฐานะที่เป็นส่วนของ Apple Macintosh ต่อมา Microsoft สร้างความคิดพื้นฐาน ของระบบปฏิบัติการ Windows (ซึ่งเป็น graphical user interface สำหรับคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ DOS) X Window System ได้รับการพัฒนาในฐานะเป็นระบบ Cross-platform Window เปิดสำหรับผู้ใช้เครือข่าย ซึ่งยินยอมให้โปรแกรมลูกข่าย ในคอมพิวเตอร์ ส่งคำขอการบริการ Windowing ในฐานะ เวิร์กสเตชัน


ระบบปฏิบัติการ Windows 98

Windows 98 (เรียกว่า "Memphis" ระหว่างการพัฒนา และเดิมเรียก "Windows 97" ตามแผนงานเดิม) ได้เป็นสินค้าที่ได้รับการติดตั้งอย่างกว้างขวาง ในการปรับปรุงระบบปฏิบัติการ "Windows" สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ระบบ Windows 98 ได้แสดงออกถึงความเชื่อของ Microsoft ที่ว่าผู้ใช้ต้องการการมองแบบองค์รวมต่อทรัพยากรของพวกเขา และเทคโนโลยีของเว็บ (Web Technology) เป็นส่วนการอินเตอร์เฟซที่สำคัญ ถึงแม้ว่าการเพิ่มเว็บบราวเซอร์ จะได้รับการฟ้องจากระทรวงยุติธรรมของสหรัฐ แต่ Windows 98 ก็ได้รับการวางจำหน่ายโดยมีบราวเซอร์ตามแผน Microsoft Internet Explorer เป็นส่วนของระบบปฏิบัติการใน Windows 98 เมื่อใช้ Active Desktop ของ Windows 98 จะสามารถมองและเข้าถึงอ็อบเจค ที่อยู่ใน World Wide Web แบบเดียวกับ ไฟล์หรือโปรแกรมประยุกต์บนเครื่อง ใน Windows 98 desk top เป็นเว็บเพจที่ใช้ HTML Link และมีส่วนของตัวควบคุมแบบ ActiveX ภายใน Windows 98 สามารถตั้งค่าให้สามารถดึงข้อมูล และข่าวสารจากเว็บไซด์ที่ระบุไว้ Windows 98 ใช้ FAT32 เพื่อทำให้สามารถสร้างพาร์ติชันของฮาร์ดดิสก์ ขนาดใหญ่ 2 กิกะไบต์ และส่วนประกอบอื่นได้แก่- สนับสนุน Universal Serial Bus (USB) ทำให้สะดวกในการต่ออุปกรณ์ใหม่ - สนับสนุน Digital Versatile Disc (DVD) - สนับสนุนมาตรฐานการบริหารการใช้ไฟฟ้าใหม่ที่เรียกว่า Advanced Configuration and power Interface (ACPI)
Windows 98 กำลังจะถูกแทนที่โดย Windows 2000 ซึ่งได้รับการออกสำหรับธุรกิจส่วนบุคคล และธุรกิจขนาดเล็ก


ระบบปฏิบัติการ Windows 2000

Windows 2000 เป็นเวอร์ชันล่าสุด ของการปรับปรุงระบบปฏิบัติการ Windows ผู้ใช้ Windows98 และ Windows NT อยู่ในช่วงที่ต้องย้ายไปสู่ Windows 2000 ชื่อเดิมเรียกว่า Windows NT5.0 ซึ่ง Windows 2000 เป็นการใช้เทคโนโลยีของ NT ซึ่ง Windows 2000 ได้รับการออกแบบสำหรับงานด้านวิชาชีพและธุรกิจขนาดเล็ก รวมถึงตลาดธุรกิจขนาดใหญ่ที่ต้องการระดับเทคนิคที่สูงด้วยเทคโนโลยีของ NT การใช้ Windows 2000 จำเป็นต้องเลือกตามลักษณะการใช้งานสายผลิตภัณฑ์ของ Windows 2000 ประกอบด้วยWindows 2000 Professional: จุดมุ่งหมายสำหรับงานส่วนบุคคลและธุรกิจทุกขนาด รวมถึงระบบความปลอดภัยและการใช้งานแบบเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประหยัดมากที่สุด Windows2000 Server: จุดมุ่งหมายสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ซึ่งสามารถทำเป็น web server หรือ work group server และสนับสนุนการงานกับ SMP (two-way Symmetric Multiprocessing) Windows NT4.0 สามารถอัพเกรดเป็น Windows 2000 Server Windows 2000 Advance Server: จุดมุ่งหมายสำหรับระบบปฏิบัติการของ Server แบบเครือข่ายและ/หรือเป็น server ของโปรแกรมประยุกต์ ซึ่งรวมถึงระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ในระบบนี้มีการอำนวยความสะดวกด้วยระบบ clustering and load balancing ซึ่ง Windows NT 4.0 ที่มีระบบ 8-way SMP สามารถอัพเกรดเป็นผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ Windows 2000 Data center Server: ได้รับการออกแบบสำหรับระบบ data ware house ขนาดใหญ่ การประมวลผลแบบ On-line Transaction (OLTP) การวิเคราะห์ทางเศรษฐมิติและโปรแกรมประยุกต์อื่น ที่ต้องใช้การประมวลผลด้วยความเร็วสูง และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น Data Center Server สนับสนุน 16-way SMP และใช้หน่วยความจำได้กับ 64 GB รายงานเบื้องต้นระบุว่า Windows 2000 มีเสถียรภาพสูงกว่า Windows 98 และ NT ส่วนประกอบใหม่ที่สำคัญคือ Microsoft Active Directory เมื่อรวมกับส่วนประกอบอื่นแล้ว ทำให้หน่วยธุรกิจสามารถจัดเป็นระบบเครือข่ายแบบ Virtual Private Network เพื่อ encrypt ข้อมูลสำหรับ NT หรือบนเครือข่าย และเพื่อให้การใช้ไฟล์ร่วมกันจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครือข่ายการอัพเกรดจาก Windows98 หรือ NT มีความลำบากแต่เหมาะสำหรับการใช้ที่ต้องการความสามารถใหม่ที่เพิ่มขึ้น


ระบบปฏิบัติการ Windows XP

Windows XP เป็น เวอร์ชันล่าสุดของระบบปฏิบัติ Windows ระดับ desktop สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Microsoft มองว่า Windows XP เป็นเวอร์ชันสำคัญของ Windows นับตั้งแต่ Windows 95 โดย Windows XP สร้างขึ้นบน kernel ของ Windows 2000 แต่นำมุมมองส่วนบุคคลใหม่ ให้กับหน้าจอที่จะทำให้ง่าย สำหรับผู้ใช้ในค้นหา หรือนำเข้าภาพและเรียกไฟล์เพลงบนเว็บ และส่งผ่านมายัง เครื่องคอมพิวเตอร์ Windows ใหม่ยินยอมให้สมาชิกในครอบครัวแต่ละคนสามารถใช้ หน้าจอ desktop ของตัวเอง และชุดของไฟล์ส่วนบุคคล นอกจาก "My Computer" และ "My Documents" ที่มีให้ใน Windows 2000 ผู้ใช้ใน Windows XP จะเห็น "My Music" และ "My Picture" ส่วน Start Menu ได้รับการออกแบบ ให้หาโปรแกรมที่ใช้บ่อยได้ง่ายขึ้น Windows XP มีเวอร์ชัน Professional และ Home Edition


ระบบปฏิบัติการ UNIX

UNIX เป็นระบบปฏิบัติการ ที่เริ่มต้นใน Bell Labs เมื่อปี 1969 ในฐานะระบบ Interactive time -sharing ซึ่ง Ken Thompson และ Demiss Ritchie ได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้คิดค้น UNIX ในปี 1974 Unix เป็นระบบปฏิบัติการแรกที่เขียนด้วยภาษา C และเป็น freeware ซึ่งมีส่วนขยายและความคิดใหม่ในเวอร์ชันที่หลากหลาย จากบริษัทต่าง ๆ มหาวิทยาลัยและเอกชนทำให้ Unix กลายเป็นระบบเปิด หรือระบบปฏิบัติการมาตรฐานแรกที่ให้บุคคลทั่วไปสามารถปรับปรุงได้ ส่วนประกอบของภาษา C และ shell interface ของ UNIX อยู่ภายใต้มาตรฐาน Portable Operating System Interface ซึ่งอุปถัมภ์โดย Instituted of Electrical and Electronics Engineering ในส่วนอินเตอร์เฟซของ POSIX ได้มีการระบุ X/Open Programming Guide 4.2 (รู้จักกันในชื่อ "Single UNIX Specification" และ UNIX 95") เวอร์ชัน 2 ของ Single UNIX Specification เรียกว่า UNIX 98. ระบบปฏิบัติการ UNIX มีการใช้อย่างกว้างขวางในผลิตภัณฑ์ เวิร์กสเตชั่น ของ Sun Microsystems, Silicon Graphics, IBM และบริษัทอื่น ๆ สภาพแวดล้อมของ UNIX และแบบจำลองโปรแกรม Client/Server เป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาอินเตอร์เน็ต และเปลี่ยนการประมวลผลแบบศูนย์กลางในเครือข่ายมากกว่าคอมพิวเตอร์อิสระ Linux เป็นอนุพันธ์ของ UNIX ที่มีทั้งเวอร์ชันฟรีและพาณิชย์ กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในฐานะตัวเลือกของระบบปฏิบัติการ


ระบบปฏิบัติการ Linux

ลีนุกซ์คืออะไร

ลีนุกซ์ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ที่เป็นยูนิกซ์โคลน สำหรับเครื่องพีซี และแจกจ่ายให้ใช้ฟรี สนับสนุนการใช้งานแบบหลากงาน หลายผู้ใช้ (MultiUser-MultiTasking) มีระบบ X วินโดวส์ ซึ่งเป็นระบบการติดต่อผู้ใช้แบบกราฟฟิก ที่ไม่ขึ้นกับโอเอสหรือฮาร์ดแวร์ใดๆ (มักใช้กันมากในระบบยูนิกซ์) และมาตรฐานการสื่อสาร TCP/IP ที่ใช้เป็นมาตรฐานการสื่อสารในอินเทอร์เนตมาให้ในตัว ลีนุกซ์มีความเข้ากันได้ (compatible) กับ มาตรฐาน POSIX ซึ่งเป็นมาตรฐานอินเทอร์เฟสที่ระบบยูนิกซ์ ส่วนใหญ่จะต้องมีและมีรูปแบบบางส่วนที่คล้ายกับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากค่าย Berkeley และ System V โดยความหมายทางเทคนิคแล้วลีนุกซ์ เป็นเพียงเคอร์เนล (kernel) ของระบบปฏิบัติการ ซึ่งจะทำหน้าที่ในด้านของการจัดสรรและบริหารโพรเซสงาน การจัดการไฟล์และอุปกรณ์ I/O ต่างๆ แต่ผู้ใช้ทั่วๆไปจะรู้จักลีนุกซ์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นและระบบอินเทอร์เฟสที่เขาเหล่านั้นเห็น (เช่น Shell หรือ X วินโดวส์) ถ้าคุณรันลีนุกซ์บนเครื่อง 386 หรือ 486 ของคุณ มันจะเปลี่ยนพีซีของคุณ ให้กลายเป็นยูนิกซ์เวอร์กสเตชันที่มีความสามารถสูง เคยมีผู้เทียบประสิทธิภาพระหว่างลีนุกซ์บนเครื่องเพนเทียม และเครื่องเวอร์กสเตชันของซันในระดับกลาง และได้ผลออกมาว่าให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน และนอกจากแพลตฟอร์มอินเทลแล้ว ปัจจุบันลีนุกซ์ยังได้ทำการพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์มอื่นๆด้วย เช่น DEC Alpha , Motorolla Power-PC , MIPS เมื่อคุณสร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาบนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งแล้ว คุณก็สามารถย้ายแอพพลิเคชันของคุณไปวิ่งบนแพลตฟอร์มอื่นได้ไม่ยาก ลีนุกซ์มีทีมพัฒนาโปรแกรมที่ต่อเนื่อง ไม่จำกัดจำนวนของอาสาสมัครผู้ร่วมงาน และส่วนใหญ่จะติดต่อกันผ่านทางอินเทอร์เนต เพราะที่อยู่อาศัยจริงๆของแต่ละคนอาจจะอยู่ไกลคนละซีกโลกก็ได้ และมีแผนงานการพัฒนาในระยะยาว ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่มีอนาคต และจะยังคงพัฒนาต่อไปได้ตราบนานเท่านาน

ประวัติของลีนุกซ์

ลีนุกซ์ถือกำเนิดขึ้นในฟินแลนด์ ปี คศ. 1980 โดยลีนุส โทรวัลด์ส (Linus Trovalds)นักศึกษาภาควิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ (Computer Science) ในมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ลีนุส เห็นว่าระบบมินิกซ์ (Minix) ที่เป็นระบบยูนิกซ์บนพีซีในขณะนั้น ซึ่งทำการพัฒนาโดยศ.แอนดรูว์ ทาเนนบาวม์ (Andrew S. Tanenbaum) ยังมีความสามารถไม่เพียงพอแก่ความต้องการ จึงได้เริ่มต้นทำการพัฒนาระบบยูนิกซ์ของตนเองขึ้นมา โดยจุดประสงค์อีกประการ คือต้องการทำความเข้าใจในวิชาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ด้วยเมื่อเขาเริ่มพัฒนาลีนุกซ์ไปช่วงหนึ่งแล้ว เขาก็ได้ทำการชักชวนให้นักพัฒนาโปรแกรมอื่นๆมาช่วยทำการพัฒนาลีนุกซ์ ซึ่งความร่วมมือส่วนใหญ่ก็จะเป็นความร่วมมือผ่านทางอินเทอร์เนต ลีนุสจะเป็นคนรวบรวมโปรแกรมที่ผู้พัฒนาต่างๆได้ร่วมกันทำการพัฒนาขึ้นมาและแจกจ่ายให้ทดลองใช้เพื่อทดสอบหาข้อบกพร่อง ที่น่าสนใจก็คืองานต่างๆเหล่านี้ผู้คนทั้งหมดต่างก็ทำงานโดยไม่คิดค่าตอบแทน และทำงานผ่านอินเทอร์เนตทั้งหมด ปัจจุบันเวอร์ชันล่าสุดของระบบลีนุกซ์ที่ได้ประกาศออกมาคือเวอร์ชัน 2.0.13 ข้อสังเกตในเรื่องเลขรหัสเวอร์ชันนี้ก็คือ ถ้ารหัสเวอร์ชันหลังทศนิยมตัวแรกเป็นเลขคู่เช่น 1.0.x,1.2.x เวอร์ชันเหล่านี้จะถือว่าเป็นเวอร์ชันที่เสถียรแล้วและมีความมั่นคงในระดับหนึ่ง แต่ถ้าเป็นเลขคี่เช่น 1.1.x, 1.3.x จะถือว่าเป็นเวอร์ชันทดสอบ ซึ่งในเวอร์ชันเหล่านี้จะมีการเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆลงไป และยังต้องทำการทดสอบ หาข้อผิดพลาดต่างๆอยู่


ระบบปฏิบัติการ windows 2003
Windows Server 2003 พัฒนาอยู่ 4 เวอร์ชั่นด้วยกัน ในแต่ละเวอร์ชั่นก็จะเหมาะกับขนาดองค์กรที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งานเป็นหลัก โดยมีเวอร์ชั่นต่างๆ ดังนี้

1. Windows Server 2003 Standard Edition

2. Windows Server 2003 Enterprise Edition

3. Windows Server 2003 Datacenter Edition

4. Windows Server 2003 Web Edition


Windows Server 2003 Standard Edition

เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับงานทั่วไป ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับหน่วยงานขนาดเล็กที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 10-50 เครื่อง สนับสนุนซีพียู (CPU) 4 ตัว รองรับหน่วยความจำสูงถึง 4 GB สนับสนุนการทำ Active Directory, DNS Server, File and Print Server, RAS Server, VPN และ Web Server (IIS6.0) เป็นต้น


Windows Server 2003 Enterprise Edition

เป็นระบบปฏิบัติการที่มีความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพสูงด้วยเช่นกัน เหมาะกับองค์ขนาดกลางที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 100-500 เครื่อง สนับสนุนซีพียู 8 ตัว (รองรับซีพียู 32 bit และ 64 bit) รองรับหน่วยความจำสูงถึง 32 GB สนับสุนการทำ Cluster ได้ถึง 8 Node สนับสนุนการทำ Active Directory และความสามารถทั้งหมดในเวอร์ชั่น Standard Edition


Windows Server 2003 Datacenter Edition

เป็นระบบปฏิบัติการที่เหมาะกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 500-1,000 เครื่อง ต้องการความน่าเชื่อถือสูง รองรับการใช้งานได้มาก และทำงานได้ตลอดเวลาไม่มีหยุด (24x7) สนับสนุนซีพียู 32 ตัว (รองรับซีพียู 32 bit และ 64 bit) รองรับหน่วยความจำสูงถึง 64 GB รองรับ Cluster ได้ถึง 8 Node สนับสนุนการทำ Active Directory และความสามารถทั้งหมดในเวอร์ชั่น Enterprise Edition


Windows Server 2003 Web Edition

เป็นระบบปฏิบัติการที่ออกแบบสำหรับเป็น Web Server โดยเฉพาะ มีโปรแกรม IIS 6.0 เป็นตัวให้บริการหลักของ Web Server สนับสนุนเทคโนโลยี ASP.NET รองรับการทำ Web Service ต่างๆ สนับสนุนซีพียู 2 ตัว รองรับหน่วยความจำสูงถึง 2 GB และยังสามารถทำ Network Load Balancing / NLB) ขณะที่ Windows Server 2003 Web Edition ไม่สมารถทำหน้าที่เป้น Domain Controller ได้ แต่สามารถเป็นสมาชิกในโดเมนได้
ระบบปฏิบัติการ Windows Server 2003 แต่ละเวอร์ชั่นอาจมีความสามารถแตกต่างกันไปบ้าง เพื่อให้เหมาะสมต่อขนาดองค์กรและฟังก์ชั่นการใช้งาน แต่สิ่งที่ทุกเวอร์ชั่นจะขาดไม่ได้คือความน่าเชื่อถือ ความสามารถในการขยายระบบ การดูแลจัดการ และสามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน


Reliable

Windows Server 2003 เป็นการพัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่การนำวินโดวส์รุ่นก่อนหน้ามาปรับแก้ไขใหม่ จึงทำให้ระบบปฏิบัติการหรือ OS มีความน่าเชื่อถือสูงกว่าวินโดวส์ชุดก่อน นอกจากนี้ในรุ่น Enterprise และ Datacenter ยังสนับสนุนการทำคลัสเตอร์ได้ถึง 8 Node ซึ่งเป็นการกระจายงานกันแต่ละเซิร์ฟเวอร์ ทำให้ระบบมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ในด้านความปลอดภัยระบบปฏิบัติการสนับสนุนการเข้ารหัสแบบ Kerberos และกุญแจสาธารณะ (Public Key)


Scalable

ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่นี้มีความสามารถในการขยายระบบได้ง่าย รองรับซีพียูได้ถึง 4 ซีพียู ขณะที่รุ่น Datacenter รองรับได้มากถึง 32 ซีพียู และรองรับหน่วยความจำได้มากถึง 512 GB ในรุ่น 64 bit และยังรองรับระบบไฟล์ใหม่ๆ เช่น Distributed File System (DFS) และสนับสนุนอุปกรณ์เก็บข้อมูลชนิด Storage Area Network (SAN) ด้วยเช่นกัน


Manageable

การจัดการได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้ง Active Directory และ Group Policy Management ซึ่งได้มีเครื่องมือ (Tool) ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และยังสนับสนุน Remote Installation Service (RIS) ซึ่งจะช่วยให้การติดตั้งซอฟต์แวร์ต่างๆ สะดวกขึ้น รวมถึงการติดตั้งระบบปฏิบัติการผ่านเครือข่ายด้วยเช่นกัน
Interoperable

Windows Server 2003 สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์จากบริษัทอื่นๆ ได้ รวมถึงระบบปฏิบัติการก่อนหน้านี้ และซอฟต์แวร์ออฟฟิศเวอร์ชั่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังสนับสนุนเทคโนโลยี XML ซึ่งจะทำให้ซอฟต์แวร์ที่ใช้มาตรฐาน XML สามารถทำงานร่วมกับ Windows Server 2003 ได้

vmware คือ อะไร

ความหมาย ของ VMWARE โปรแกรม VMWare เป็นโปรแกรมที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine) ขึ้นบนระบบปฏิบัติการเดิมที่มีอยู่ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ลงระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่เดิม แล้วทำการลงระบบปฏิบัติการ Windows NT ผ่านโปรแกรม VMWare อีกทีหนึ่ง ซึ่งเมื่อลงแล้ว ทั้งสองระบบสามารถทำงานพร้อมกันได้โดยแยกจากกันค่อนข้างเด็ดขาด (เสมือนเป็นคนละเครื่อง) โดยคอมพิวเตอร์เสมือนที่สร้างขึ้นมานั้น จะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกับคอมพิวเตอร์จริงๆ เครื่องหนึ่ง ซึ่งจะประกอบด้วย พื้นที่ดิสก์ที่ใช้ร่วมกับพื้นที่ดิสก์ของเครื่องนั้นๆ การ์ดแสดงผล การ์ดเน็ตเวิร์ก พื้นที่หน่วยความจำซึ่งจะแบ่งการทำงานมาจากหน่วยความจำของเครื่องนั้นๆ เช่นกัน ปัจจุบันโปรแกรม VMWare มีเวอร์ชันทั้งสำหรับการทำงานบน Windows และ Linux หากเครื่องท่านเป็น Windows ก็สามารถลองเวอร์ชันสำหรับ Windows ได้ โดยท่านสามารถเข้าไปโหลดโปรแกรมมาทดลองใช้งานได้ที่

วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

คำอธิบายรายวิชา Datacomm(Datacomm)


รหัสวิชา
4123702
ชื่อวิชาภาษาไทย
ระบบการสื่อสารข้อมูล
ชื่อวิชาภาษาอังกฤษ
Datacommunication System
คำอธิบายรายวิชา
การทำงานของระบบการเก็บข้อมูลและการสื่อสาร อุปกรณ์ทีใช้กับระบบเก็บข้อมูล การวิเคราะห์ระบบสื่อสาร อุปกรณ์ที่ใช้ระบบสื่อสารระบบการส่งข้อมูลแบบทางเดียว แบบสองทางไม่พร้อมกัน แบบสองทางพร้อมกัน ชนิดของการส่งข้อมูล Analog และ Digital สถาปัตยกรรมของ Network Protocal ระบบเครือข่าย, WAN, LAN และ Distributed
หน่วยกิต
3(2-2)

คำอธิบายรายวิชาระบบปฏิบัติการ 2 (os2)


รหัสวิชา
4121402
ชื่อวิชาภาษาไทย
ระบบปฏิบัติการ 2
ชื่อวิชาภาษาอังกฤษ
Operating Systems 2
คำอธิบายรายวิชา
ศึกษาหน้าที่และการดำเนินงานของระบบปฏิบัติการ เกี่ยวกับจัดการหน่วยความจำ หน่วยประมวลผลกลาง การจัดแฟ้มข้อมูล หน่วยรับและแสดงผลข้อมูลในลักษณะของผู้ใช้คนเดียว งานเดียว และใช้หลายคนหลายงานพร้อมกัน รวมทั้งการสื่อสารระหว่างขบวนการ (Interprocess Communication : IPC)
หน่วยกิต
3(2-2)

แนะนำตัวเอง

ชื่อ .....นางสาวรัฐวาลีย์ หนูพัฒน์
มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ
โปรแกรมวิชา......วิทยาการคอมพิวเตอร์
อีเมล์ .....nirus.arree@hotmail.com